วันจันทร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับโสม


เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับโสม

Ginseng


         โสมเป็นพืชสมุนไพรที่มีคนรู้จักมากที่สุดในโลก โสมถือเป็นราชาแห่งสมุนไพรทีเดียว และถูกนำมาใช้เป็นเวลานานกว่า 2000 ปีแล้ว โสมมีอยู่ด้วยกัน 3 สายพันธุ์ คือ โสมเอเชีย เช่น จีน เกาหลี (Panax ginseng, C.A. Meyer) โสมอเมริกัน และแคนาดา (Panax quinqquefolium) และโสมไซบีเรีย (Eleuthero - coccus senticosus) แต่อย่างหลังสุดไม่ใช่โสมที่แท้จริงตามสายพันธุ์ของโสม แต่ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่ามีระบบการทำงานคล้ายโสม โสมเอเชียมีถิ่นกำเนิดในตอนเหนือของจีน เกาหลี และประเทศสหรัฐอเมริกา ในตำรายาแผนโบราณของจีนระบุว่า โสมเป็นสมุนไพรที่ช่วยเสริมความแข็งแรงให้แก่ระบบย่อยอาหาร และปอด ช่วยทำให้จิตใจสงบ และเพิ่มพละกำลังโดยส่วนรวม.

สำหรับสรรพคุณทางวิชาการทางการแพทย์ที่น่าสนใจรวมถึง
ความปลอดภัย มีดังนี้.
ช่วยบำรุงหัวใจ โสมมีคุณสมบัติในการช่วยบำรุงหัวใจโดยออกฤทธิ์คล้ายกับยาหัวใจ (digoxin)

ป้องกันโรคหัวใจขาดเลือด มีงานวิจัยในผู้ป่วยผ่าตัดหัวใจ (Cardiac surgery) มีการลองให้โสม และวัดทั้งการบีบตัวดูผลของการขาดออกซิเจนด้วย.

เสริมประสิทธิภาพทางเพศในชาย มีงานวิจัยในผู้ป่วยที่มีปัญหาองคชาติไม่แข็งตัว (Erectile dysfunction) 45 ราย โดยรับประทานโสมเกาหลีปริมาณ 900 ม.ก. 3 ครั้งต่อวัน เป็นเวลา 2 เดือน พบว่าสามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ในการประเมินอย่างละเอียดทุกด้าน โสมจึงช่วยเสริมสมรรถภาพทางเพศในผู้ชาย.

ลด และป้องกันมะเร็ง มีงานวิจัยของเกาหลีพบว่า การรับประทานโสมเกาหลีเป็นเวลานาน สามารถลดอุบัติการณ์ของมะเร็งตับลงได้ ด้วยการทำงานในด้านการต้านอัลฟาทอกซินบี และยูรีเทน ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่พบได้บ่อยพอควรในมะเร็งตับ แต่ก็ยังไม่สามารถลดมะเร็งตับจากการดื่มสุราหรือสาเหตุอื่นได้ในการวิจัยย้อนหลัง (Case control study) ความเสี่ยง และสารป้องกันการเกิดมะเร็งในคนพบว่า ในคนที่ทานโสมมีอุบัติการณ์หรือมีโอกาสเป็นมะเร็งลดลงอย่างมาก มะเร็งที่ลดลงเมื่อทานโสมได้แก่ มะเร็งริมฝีปาก ช่องปาก และลำคอ มะเร็งกล่องเสียง มะเร็งปอด มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งตับ มะเร็งตับอ่อน มะเร็งรังไข่ และมะเร็งลำไส้ใหญ่ และมีนักวิทยาศาสตร์ชาวไต้หวัน คือ ดร. Chang YS ก็ตีพิมพ์งานวิจัยแนะนำว่า ถึงเวลาแล้วที่โสมจะเป็นหนึ่งในทีมยารักษาโรคมะเร็งได้แล้ว.

โสมมีสรรพคุณช่วยในเรื่องโรคปอดเรื้อรังชนิดที่พบบ่อยที่สุด คือโรคถุงลมโป่งพอง(COPD) โรคนี้พบได้บ่อยมากเพราะเป็นผลงานของการสูบบุหรี่ติดต่อกันมาเป็นระยะเวลานาน งานวิจัยของโสมแบบการทดลองที่มีกลุ่มควบคุมชัดเจน ได้ทำให้ผู้ป่วยโรคถุงลมโป่งพอง 92 คน แบ่งเป็นกลุ่มวิจัยที่ได้สารสกัดโสมวันละ 200 มก. 49 คน และกลุ่มควบคุมได้รับยาหลอกอีก 43 คน เป็นเวลา 3 เดือน พบว่ากลุ่มที่ได้รับโสมมีสมรรถภาพทางปอดดีขึ้นอย่างมากในทุกด้าน โดยไม่มีผลข้างเคียง แต่กลุ่มที่ได้รับยาปลอมไม่มีผลดีขึ้นแต่อย่างใด ดังนั้น ถ้าจะทานโสมในผู้ที่เป็นโรคนี้ก็น่าจะเกิดประโยชน์ เพราะมีงานวิจัยนี้สนับสนุนอยู่แล้ว.

โสมมีความปลอดภัยสูง สามารถรับประทานต่อเนื่องได้เป็นระยะเวลายาวนาน ผลข้างเคียงมีน้อยมาก ที่พบได้มีแค่อาการปวดศรีษะ และทางเดินอาหาร และรบกวนการนอนหลับเท่านั้น ยาที่ไม่ควรทานร่วมกับโสมก็มีเพียงสามสี่ตัว คือ ยาต้านการแข็งตัวของเลือดอย่างแรงชื่อ warfarin ยากระตุ้นหัวใจชื่อ digoxin ยาแก้เศร้าชื่อ Pheneizine และสุรา อาจมีการรบกวนประจำเดือน อาการเจ็บหน้าอกขณะมีประจำเดือน และก็มีรายงานถึงคนที่แพ้ได้อย่างรุนแรงได้ โดยมีอาการทางผิวหนัง แต่ทั้งหมดนี้เกิดได้น้อยมาก อย่างไรก็ตามมีข้อแนะนำว่าหากต้องการให้ปลอดภัยที่สุด ไม่ควรทานโสมกับยาแอสไพริน รวมถึงไม่ควรทานอย่างยิ่งในสตรีตั้งครรภ์ และเด็ก ไม่ควรทานในคนที่ตับอักเสบคือมีเอนไซม์ของตับสูงอยู่แล้ว (ไวรัสตับอักเสบบีที่เป็นพาหะยังไม่มีเอนไซม์สูงจะทานได้) หรือตับอักเสบจนตัวเหลือตาเหลือง หรือตับโต ดังนั้น ถ้าเรามีโรคประจำตัวควนถามหมอของเราก่อนว่าจะทานได้ไหม และเนื่องจากโสมเป็นของร้อน บางคนทานแล้วก็หงุดหงิด ถ้าอยากจะทานให้เป็นยาอายุวัฒนะจริงๆ ก็ให้ทานร่วมกับใบบัวบก ซึ่งเป็นของเย็นจะดีที่สุด ซึ่งคนอายุยืนมากๆ ก็ทานโสมกับใบบัวบกเป็นประจำ.


Ginseng Capsule
ยาโสมเกาหลี ชนิดแคปซูล ตรา กิฟฟารีน

ส่วนประกอบสำคัญใน 1 แคปซูล รากโสม 500 มก.
วิธีรับประทาน รับประทานครั้งละ 1-2 แคปซูล วันละ 1 ครั้ง ก่อนอาหาร
รหัส 48010 ขนาด 30 แคปซูล ราคา 680 510 บาท.-
ง่าย และสะดวกต่อการรับประทาน
ผลิตโดย บริษัท สกายไล

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น