วันจันทร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับลูทีน และซีแซนทีน


เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับลูทีน และซีแซนทีน
Lutein & Zeaxanthin
ลูทีนและซีแซนทีนมีประโยชน์ต่อดวงตาอย่างไร?

ลูทีน (lutein) และซีแซนทีน (Zeaxanthin) เป็นธรรมชาติที่มีในพืชผักผลไม้หลายชนิด เป็นสารในตระกูลของสารแคโรทีนอยด์ และพบได้ในบริเวณดวงตา ตรงบริเวณเลนส์ตา และจอรับภาพของตา ในธรรมชาติแล้วแม้จะมีแคโรทีนอยด์มากกว่า 600 ชนิด แต่มีเพียงสาร 2 ชนิดนี้เท่านั้นที่พบในจุดรับภาพของจอตา สารทั้งสองชนิดนี้จะทำหน้าที่ช่วยกรองหรือป้องกันรังสีจากแสงแดดที่เป็นอันตรายต่อดวงตา และช่วยป้องกันเซลล์ของจอประสาทตาไม่ให้ถูกทำลายโดยการลดอนุมูลอิสระ ดังนั้นจึงทำหน้าที่บำรุงตา ทำให้จอตาไม่เสื่อมเร็ว พืชผักที่มีสารลูทีน และซีแซนทีน โดยมากมักจะเป็นผักผลไม้ที่มีสีเหลือง และสีเขียวเข็ม เช่น ข้าวโพด แครอท ฟักทอง ผักกาด ผักปวยเล้ง คะน้า ผักโขม ฯลฯ การบริโภคพืชผักที่มีลูทีน และซีแซนทีน หรือแม้แต่อาหารสุขภาพที่มีสาระสำคัญนี้มีประโยชน์ในโรคหลายชนิดด้วยกัน ที่สำคัญคือ โรคต้อกระจก และโรคจุดรับภาพเสื่อม.

โรคต้อกระจก
คือ ภาวะที่กระจกตาหรือเลนส์ตาขุ่น ทำให้แสงไม่สามารถผ่านเข้าไปในตาได้ ตามปกติโรคต้อกระจกตาไม่ใช่โรคติดต่อ ต้อกระจกจะค่อยๆ เสื่อมไปช้าๆ ใช้เวลาเป็นปี และสามารถรักษาด้วยการผ่าตัด.

โรคจุดรับภาพเสื่อม
เกิดจากการเสื่อมของจุดรับภาพ (Macular) ซึ่งเป็นกลางจอตา (Retina) ทำให้การมองเห็นภาพเบลอบิดเบี้ยว บางครั้งอาจรุนแรงขนาดเห็นจุดดำมาบังภาพอยู่ตลอดเวลา.

ลูทีนและซีแซนทีนกับโรคต้อกระจกตา
กลไกของลูทีน และซีแซนทีน สามารถลด ป้องกันหรือชะลอการเกิดต้อกระจกได้นั้น เป็นเพราะลดกลไกการเกิดความเสื่อมของโรคต้อกระจกโดยตรง และการที่มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ เพราะอนุมูลอิสระเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดต้อกระจก มีการวิจัยในกลุ่มผู้สูงอายุต่างๆ พบว่ากลุ่มที่มีระดับของลูทีน และซีแซนทีนในกระแสเลือดสูงจะมีความขุ่นของเลนส์ตาน้อยกว่า ซึ่งเป็นการวิจัยของจักษุแพทย์ และผู้วิจัยสรุปว่า ลูทีน และซีแซนทีน น่าจะลดการเกิดความเสื่อมของเลนส์ตาในผู้สูงอายุได้จริง  ยังมีการวิจัยว่าการรับประทานลูทีนในปริมาณสูงเพิ่มความสามารถในการมองเห็นของผู้ป่วยที่เป็นต้อกระจกไปแล้ว การวิจัยนี้เป็นการวิจัยที่ออกแบบแผนการวิจัยมาอย่างดี และทำการทดลองนานถึงสองปี .

การวิจัยที่ Harvard School of Public Health, Boston ในผู้ชาย 36,644 คน ที่ได้รับอาหารเสริมและวิตามินต่างๆ พบว่ากลุ่มที่ได้รับอาหารเสริมเป็นลูทีน และซีแซนทีน จะลดความเสื่อมของโรคต้อกระจกถึง 19% และที่ University of Massachusetts ทำวิจัยในสุภาพสตรีถึง 50,461 คน พบว่า ลูทีน และซีแซนทีนจะลดความเสี่ยงของโรคต้อกระจกถึง 22% การวิจัยที่ University of Wisconsin Madison Medical School ในผู้สูงอายุ 43-48 ปี จำนวน 1,354 คนพบว่าช่วยลดการอุบัติการณ์ของต้อกระจกตรงกลางเลนส์ (Nuclear Cataracts)ได้ถึง 50% จากการวิจัยทั้งหมดนี้จึงเป็นที่ยอมรับว่า ลูทีน และซีแซนทีนลดอุบัติการณ์โรคต้อกระจกในผู้สูงอายุได้จริง.

ลูทีน และซีแซนทีนกับโรคจุดรับภาพเสื่อม
นอกจากลูทีน และซีแซนทีนจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต้อกระจกแล้ว ยังพบว่ามีประโยชน์ในโรคจุดรับภาพเสื่อม ซึ่งมีหลายๆ การศึกษาสนับสนุนข้อมูลดังกล่าว โดยพบว่าปริมาณลูทีน และซีแซนทีนในลูกตาลดน้อยลง จะพบความเสื่อมมากขึ้นในการเป็นโรครับภาพเสื่อม และความเสี่ยงในการเป็นโรคจุดรับภาพเสื่อมจะลดลง หากมีปริมาณลูทีน และซีแซนทีนในเลือดสูงขึ้น แสดงให้เห็นว่า การบริโภคอาหารที่มีลูทีน และซีแซนทีน สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคได้.


    LZvit
    แอล ซี วิต
    ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ลูทีน และซีแซนทีน ตรา กิฟฟารีน
    ส่วนประกอบที่สำคัญโดยประมาณใน 1 แคปซูล
    ลูทีน 3.15 มก. และซีแซนทีน 3.15 มก.
    วิธีรับประทาน รับประทานวันละ 1-2 แคปซูล พร้อมอาหาร
    รหัส 40112 ขนาด 30 แคปซูล ราคา 560 420 บาท.-
    คำเตือน อ่านคำเตือนในฉลากก่อนบริโภค ไม่มีผลในการป้องกันหรือรักษาโรค.

    ไม่มีความคิดเห็น:

    แสดงความคิดเห็น